โครงการทรัพยากรชีวภาพปลากัดแห่งชาติ ประสบความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรมของจีโนมไมโทคอนเดรียของปลากัดป่ามหาชัยเป็นครั้งแรกของโลก
โครงการทรัพยากรชีวภาพปลากัดแห่งชาติ (National Betta Bioresource Project) ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สมาคมปลากัด ร่วมกับบริษัทวิชูโอ ไบโอเมดิคอล (ไทยแลนด์) จำกัด ประสบความสำเร็จในการถอดรหัสพันธุกรรมของจีโนมไมโทคอนเดรียที่สมบูรณ์ของปลากัดป่ามหาชัยเป็นครั้งแรกของโลก โดยจีโนมไมโทคอนเดรียมีขนาด 16,980 คู่เบส และพบข้อมูลลำคัญบนจีโนมเพื่อใช้สนับสนุนจัดทำฐานข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ อนุกรมวิธาน เอกลักษณ์ทางพันธุกรรม และการแพร่กระจายของปลากัดป่า ซึ่งอาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาติของประเทศไทย
รศ. ดร.ครศร ศรีกุลนาถ ในฐานะประธานโครงการฯ และคณะ กล่าวว่า จากข้อมูลการศึกษาในปัจจุบันพบว่าปลากัดป่ามหาชัยเป็นปลากัดที่พบในประเทศไทยเท่านั้น มักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยบริเวณป่าจาก แถบจังหวัดสมุทรสาคร และอาจพบได้ในจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสงคราม ตลอดจนบางส่วนของพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามเนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมและการคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการคุกคามและทำลายแหล่งที่อยู่ของปลากัดป่ามหาชัยเป็นอย่างมาก ทำให้ปลากัดชนิดดังกล่าวเสี่ยงสูญพันธุ์ ข้อมูลจีโนมดังกล่าวจึงเป็นฐานข้อมูลสำคัญเพื่อต่อยอดการพัฒนาวิธีการพิสูจน์เอกลักษณ์และเข้าใจกลไกวิวัฒนาการและจุดกำเนิดของปลากัดป่ามหาชัย ซึ่งส่งเสริมงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของปลากัดป่ามหาชัย นอกจากนี้ทาง วช และ สมาคมปลากัดกำลังพยายามพัฒนาวิธีการเพาะเลี้ยงปลากัดป่ามหาชัยเพื่อพัฒนาเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประเทศในอนาคต และทดแทนการจับปลากัดป่ามหาชัยจากธรรมชาติ ข้อมูลจีโนมไมโทคอนเดรียของปลากัดจึงเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญยิ่ง
ข้อมูลจีโนมดังกล่าวได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร Mitochondrial DNA Part B: Resources เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2563 จีโนมไมโทคอนเดรียของปลากัดป่ามหาชัย (Betta mahachaiensis) นับเป็นจีโนมที่ 5 ของปลากัดป่า ต่อจาก ปลากัดอมไข่ภาคใต้ (B. simplex), ปลากัดภูเขาภาคใต้ (B. apollon), ปลากัดอมไข่น้ำแดงหรือป่าพรุ (B. pi) และ ปลากัดป่าภาคกลาง (B. splendens) ซึ่งได้รับการถอดรหัสพันธุกรรมด้วยคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
และการปรับตัวอันเนื่องมาจากภาวะวิกฤติโควิด-19
นักวิทยาศาสตร์ของโลก ที่มีผลงานตีพิมพ์และได้รับการอ้างอิงสูงสุด